บทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์กัน ว่ามีวิธีการใช้ยา หรือข้อควรรู้อะไรบ้าง แต่วิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ที่เรานำมาฝากกันนี้จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูพร้อมๆ กันเลย
รวมวิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์
- วิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ คือ คุยกับแพทย์ เภสัชกร บอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่านเองให้มากที่สุด เช่น ท่านมีประวัติการแพ้ยาอะไรหรือไม่ รับประทานยาหรืออาหารเสริมอื่นๆ อยู่หรือไม่ อะไรบ้าง เป็นต้น
- วิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ คือ ทำความรู้จักยาที่ใช้ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่าย หรือที่ซื้อเองจากร้านขายยา เช่น ชื่อสามัญทางยา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้ยาซ้ำซ้อน และได้รับยาเกินขนาด ชื่อทางการค้าของยา ลักษณะทางกายภาพของยา เช่น สี กลิ่น รูปร่าง เป็นต้น เมื่อสภาพของยาเปลี่ยนแปลงไป เช่น สีเปลี่ยนไป ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าว เพราะอาจก่อให้เกิด อันตรายได้
- วิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ คือ อ่านฉลากยาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับยาจากฉลากยา ควรอ่านฉลากยาอย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนการใช้ยา เพื่อความมั่นใจว่ารับประทานยาถูกต้อง หากไม่เข้าใจประการ ใดควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญ เก็บยาในที่ที่เหมาะสมตามที่ระบุในฉลาก ห้ามเก็บยาต่างชนิดกันในภาชนะเดียวกัน และไม่ควรเก็บยาสำหรับใช้ภายในและ ยาสำหรับใช้ภายนอกไว้ใกล้เคียงกัน
- วิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ คือ หลีกเลี่ยงการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ระลึกถึง และหลีกเลี่ยงอย่างเคร่งครัด ต่อการรับประทานยา อาหารหรือเครื่องดื่มที่ ทำให้เกิดปฏิกิริยากับยาที่รับประทาน ซึ่งทำให้เกิดผลเบี่ยงเบนการออกฤทธิ์และ เพิ่มอันตรายจากยาได้ หากเป็นไปได้ ทุกครั้งที่ท่านต้องมีการรับประทานยาใหม่ๆ เพิ่มเติม ควรได้นำยาเดิมที่ รับประทานอยู่ไปแสดงให้แพทย์ หรือเภสัชกร ได้ตรวจสอบให้ด้วยว่า มียาใดที่ซ้ำซ้อน หรือทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างกันได้ เพื่อที่จะได้จัดยาให้ร่วมรับประทานได้เหมาะสม
และวิธีการใช้ยาอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของแพทย์ ข้อสุดท้าย คือ สังเกตตัวเองต่อผลของยาและอาการข้างเคียงจากการใช้ยา สังเกตว่าผลของยาเป็นไปตามแผนการใช้ยาหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น ควรไปหา แพทย์ หรือเภสัชกรอีกครั้ง เพื่อประเมินและปรับการรักษา ให้ความสำคัญกับอาการต่างๆ ของร่างกาย หากมีสิ่งใดผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์โดยทันที เพราะหากช้าแม้แต่นิดเดียวอาจทวีคูณความรุนแรงได้ทุกเมื่อ